สวัสดีค่ะ โพสต์นี้เราเคยลงใน Dek-D มาก่อนน้า
เนื่องจากเราพึ่งกลับจากเที่ยวที่เกาหลีครั้งแรก พิเศษกว่าคือ ไปคนเดียว 555 บางคนก็อาจจะไม่ใช่เรื่องพิเศษแล้ว สำหรับการเดินทางคนเดียว แต่ถ้าไม่นับการไปเดินห้างคนเดียว ทานอาหารคนเดียว หรือไปการอยู่คนเดียวที่หอ การไปเที่ยวคนเดียวนี่แหละ พิเศษมาก!กับเรา
เข้าเรื่องกันเลยน้า วันนี้เราจะมาแชร์ วิธีการเตรียมตัวไปเที่ยวแบบคนเดียวสไตล์เรา ซึ่งเพื่อนๆเอาไปประยุกต์ เพิ่มหรือลดก็ได้ เราเชื่อว่าแต่ละคนก็มีการเตรียมตัวที่ต่างกัน แต่ก็คงไม่มากหรอกมั๊ง มาม่ะ จะไปเกาหลีคนเดียว เราเตรียมอะไรไปบ้าง
เราขอแบ่งเป็น 3 พาร์ท ได้แก่
- [พร้อม]ก่อนเดินทาง
- [พร้อม]ขึ้นเครื่อง+[พร้อม]บิน
- [พร้อม]เที่ยวลุยเดี่ยว
ชื่อบอกว่าก่อนเดินทาง ดังนั้นหมายความว่าเราต้องเดินทางแน่ๆแล้วนะ
(ใจพร้อม เงินพร้อม ร่างกายพร้อม)
สิ่งที่ขาดไม่ได้แน่นอน...
จากไทยไปเกาหลี อย่างไรก็ต้องนั่งเครื่องบิน สิ่งที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน คือ สายการบิน ตรงนี้ก็แล้วแต่สไตล์และกำลังทรัพย์แล้ว ส่วนตัวเรานั้น การเดินทางครั้งนี้เน้นไปที่กำลังทรัพย์ที่มีไม่มาก จึงเลือกสายการบิน low cost ซึ่งช่วงที่จองราคาก็ไม่ได้โลว์เท่าไหร่เลย 555 โดยเลือกบินกับ Thai Air Asia X [ซื้อแต่น้ำหนักกระเป๋าไป-กลับ] ส่วนตัวแล้วระหว่างการจองตั๋วเราก็คิดเยอะอยู่สำหรับการเลือกบริการต่างๆของ TAAX
- น้ำหนักกระเป่า : บริการนี้เราเลือกแน่นอน แต่บางคนก็อาจจะเอากระเป๋าขึ้นเครื่อง กรณีใบเล็กและอยู่ในเกณฑ์ สำหรับเรา ขาไป -> มีกระเป๋าเดินทางล้อลาก(ไม่ใหญ่มาก) 1 ใบ**โหลดใต้เครื่อง และกระเป๋าเป้ใบกลาง 1 ใบ**ขึ้นเครื่อง ส่วนขากลับ -> มีกระเป๋าเหมือนเดิม เพิ่มเติม กระเป๋าถือ 1 ใบ** โหลดใต้เครื่อง และถุงกระดาษ 1 ใบ**ขึ้นเครื่อง
- ที่นั่ง : เราคิดหนักมากว่าจะจองที่นั่งดีมั๊ย ใจนั้นอยากนั่งข้างหน้าต่าง ประมาณว่าอยากถ่ายรูปปีกเครื่องบินบนก้อนเมฆนุ่มๆขาวๆ เหมือนคนอื่น ตามที่เห็นในรีวิว แต่ด้วยงบที่มีอย่างจำกัด และเหตุผลสำหรับการจองที่นั่งอ่อนไป เลยจบที่การไม่เลือกที่นั่ง แรนดอมไปเลย
สิ่งที่ได้จากการแรนดอมที่นั่ง (เราเป็นคนที่ตัวใหญ่ ปวดปัสสาวะบ่อย)
ที่นั่งติดทางเดิน
ข้อดี - เข้าห้องน้ำได้ง่าย หากคุณเป็นคนตัวใหญ่ประมาณนึง ที่ตรงนี้เหมาะกับคุณ เพราะคุณสามารถปล่อยไหล่สบายๆในด้านทางเดินได้
ข้อเสีย - บริเวณใต้เก้าอี้ด้านหน้าจะมีขนาดช่องแคบ ทำให้บางครั้งเรามีประเป๋าเป้ แล้วอยากเอามาไว้ใกล้ตัว ไม่อยากใส่ด้านบน ก็จะซุกลงไปใต้เก้าอี้ได้ลำบาก (หากกระเป๋าคุณเล็กมากก็ไม่น่ามีปัญหา)
ที่นั่งติดหน้าต่าง
ข้อดี - วิวสวย คุณจะเห็นก้อนเมฆขาวๆ ผืนน้ำ และสามารถมองไปด้านนอกได้เวลามึนหัว
ข้อเสีย - จะเข้าห้องน้ำทีต้องค่อยๆออกไป
- ใช่ว่าอยู่ข้างหน้าต่างจะมีพื้นที่ด้านข้างเยอะ เราว่าดีสุดก็ริมทางเดิน
ที่นั่งตรงกลาง
ส่วนตัวยังหาข้อดี-ข้อเสียไม่เจอ แต่สำหรับเรา ไม่อยากนั่งตำแหน่งนี้เลยจริงๆ แต่ทุกปัญหาจะหมดไป ถ้าคุณตัวเล็ก ก็นั่งไปสบายๆ หรือไม่สบาย อันนี้เราก็ไม่ทราบ เพราะเราก็เกิดมาตัวใหญ่ ภาษาสามัญก็อ้วนนั่นเอง TT
- อาหารบนเครื่อง ขาไป-ขากลับ : สิ่งแรกที่ต้องรู้คือ เที่ยวบินเรา ใช้เวลาเดินทางกี่โมง อย่างเราไปเกาหลี ใช้เวลาเดินทางไป 6 ชม.โดยประมาณ อีกทั้งเที่ยวบินไปก็ 30(เวลาไทย) – 09.30(เวลาเกาหลี) เราก็คิดจะไปนอนบนเครื่องยาวเลย ไม่ทานไรทั้งนั้น (น้ำก็ไม่มีฟรีนะคะ ต้องซื้อ) ก็ปล่อยผ่านเรื่องอาหารโลดด
สำคัญมากๆนะเออ สามารถดูข้อมูลได้ใน http://www.consular.go.th/main/th/services สำหรับเพื่อนๆที่ทำพาสปอร์ตแล้ว ก็ระวังในส่วนของวันหมดอายุน้า บางประเทศก็มีกฎว่าอายุพาสปอร์ตต้องเหลือมากกว่าเท่านี้ๆ ถึงจะสามารถใช้ได้
03 ที่พัก
ปัจจัยในการเลือกที่พักแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนดูที่ราคา ความสะดวกสบายในการเดินทาง ความเป็นส่วนตัวของห้อง เครื่องอำนวยความสะดวกในที่พัก เป็นต้น
ที่พักที่เราใช้บริการ ในการเดินทางไปเกาหลีคนเดียวนี้ คือ
UWA GUESTHOUSE
เตียงนอนห้องหญิงรวม 8 เตียง
ชั้นนี้เป็นชั้นที่2 จะมีแต่ผู้หญิงนะคะ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม
มีโต๊ะส่วนกลาง มีตู้เย็นเล็กๆอยู่ด้านซ้าย
ใครจะแช่อะไรก็เขียนชื่อหรือทำสัญลักษณ์ไว้ค่ะ
เราจะเห็นมุมหนังสือ ที่นี่มีหนังสือท่องเที่ยวในเกาหลีเยอะมาก
มีของภาษาไทยด้วยค่ะ :)
ใครจะแช่อะไรก็เขียนชื่อหรือทำสัญลักษณ์ไว้ค่ะ
เราจะเห็นมุมหนังสือ ที่นี่มีหนังสือท่องเที่ยวในเกาหลีเยอะมาก
มีของภาษาไทยด้วยค่ะ :)
ที่พักเราอยู่ที่ฮงแด เรานอนรวมห้องผู้หญิงแบบ 8 เตียง ซึ่งส่วนตัวคิดว่า ก็เป็นส่วนตัวในระดับนึงนะคะ เพราะจะมีม่านกั้นตรงเตียง พอเราเข้ามาก็ปิดม่านเตียงตัวเอง แต่เวลาเข้ามาแล้วเจอแขกคนอื่น เราก็ทักทายและยิ้มให้ค่ะ ราคาตกอยู่ คืนละ 400 กว่า ซึ่งก็ตามแต่เรทเงินในตอนนั้นด้วยนะคะ แต่ก็ไม่แตกต่างมาก สำหรับการเดินทางนั้น เราคิดว่ากำลังดีเลย เดินไปสถานีรถไฟใต้ดินใช้เวลาประมาณ 5 นาที แถมอยู่ใกล้แหล่งชอปปิ้งในย่านฮงแดอีกด้วย เราชอบที่มากเลยค่ะ
สำหรับการหาที่พักอื่นๆ เราเลือกดูจากในเว็บไซต์
www.booking.com
www.agoda.com
แล้วพอได้ชื่อโรงแรมที่สนใจก็ลองหารีวิวอีกที ตาม pantip บ้าง บางที่ก็มี บางที่ก็อาจจะไม่มี ซึ่งถ้าไม่มีก็หาอ่านจากในเว็บด้านบนส่วนที่เป็นแสดงความเห็นของผู้ที่มาใช้ก็ได้ค่ะ
04 วิธีการเดินทางภายในประเทศเกาหลี
รถไฟใต้ดิน : โดยส่วนใหญ่ เราจะนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยการพกแผนที่พับติดตัวไว้ จะไปสถานีไหนก็ดูตามสีเอา ซึ่งบางที่ก็ต้องเปลี่ยนขบวนระหว่างสถานี แต่ก็ไม่ยากเลยสำหรับการเดินทาง นอกจากนี้เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ซื้อบัตร T-Money ซึ่งหลายคนก็อาจจะเคยได้ยินชื่อมาบ้างแล้ว
รถไฟ : หากเพื่อนๆไปเที่ยวนอกเมืองโซล เช่น ปูซาน อย่างที่เราไป การเดินทางด้วยรถไฟก็เป็นทางเลือกที่ดี (บางท่านอาจจะนั่งเครื่องบินก็เป็นได้ เช่น ไปเกาะเจจู) เราอยากแนะนำ KR-Pass ศึกษาได้จากที่นี่เลยค่ะ
http://www.letskorail.com/
รถเมล์ : เราได้มีโอกาสขึ้นรถเมล์ในเกาหลีอยู่หลายครั้ง ซึ่งที่เที่ยวบางแห่งก็อยู่ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดินพอสมควร วิธีการขึ้นรถเมล์นั้น เราจำเป็นต้องรู้ก่อนว่า เราจะขึ้นป้ายที่ไหน และลงที่ไหน รถเมล์หมายเลขอะไร เพื่อนๆที่อ่านภาษาเกาหลีออก ก็สามารถดูได้ที่ป้ายรถเมล์ ป้ายที่นี่ดีมาก บอกเส้นทางการเดินของรถทุกสายเลย แต่ก็จะมีแต่ภาษาเกาหลี ซึ่งอย่างเราที่อ่านไม่ออก ก็เตรียมทำการบ้านจากที่ไทยไปเลย ว่าขึ้นที่ไหน ไปลงบริเวณไหน ลักษณะเป็นอย่างไร ชื่อป้ายอะไร เตรียมเอาไว้กันพลาดจะดีกว่าค่ะ
05 โปรแกรมท่องเที่ยว – สถานที่ท่องเที่ยว
ในส่วนนี้คาดว่าเพื่อนๆที่วางแผนมาเที่ยวก็น่าจะมีโปรแกรมวางไว้คร่าวๆแล้วว่าจะไปที่ไหนบ้าง การวางแผนช่วยให้เรามีเวลาเที่ยวมากขึ้น ตัวเรานั้นก่อนไปก็วางแผนครบทุกวันว่าจะไปไหนบ้าง พอถึงวันจริง ก็มีการปรับเป็นคืนๆไป ก่อนนอนก็จะมาดูแผนสำหรับพรุ่งนี้ ว่าเปลี่ยนตรงไหน เพิ่ม-ลด ตรงไหนบ้าง โดยที่ก็ยึดสถานที่เที่ยวจากอันเก่าที่วางแผนไว้ แต่ก็อาจจะปรับวันเล็กน้อย
06 อินเตอร์เน็ต – WIFI
ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ตมีมากมายหลากหลาย ที่สำคัญเลยสำหรับสาวๆมือใหม่อย่างเรา คือ อุ่นใจ J ส่วนใหญ่เราใช้ดูแผนที่ และเล่นไลน์ติดต่อพ่อแม่ (เป็นคำสั่งเลย ว่าอยู่ไหน ถึงไหน กินข้าว ต้องรายงาน) แลกกับการมาเที่ยวคนเดียวในต่างแดน แหะแหะ พอผ่านไปแค่วันเดียว ที่บ้านก็ไร้การตอบกลับเลย เหมือนอยู่ดีๆก็ปล่อยไปซะงั้น 5555
เพื่อนๆน่าจะเคยรู้จักกับ Pocket WIFI กันอยู่แล้ว ตรงนี้ก็มีแนะนำมากมายหาได้ใน Google ซึ่ง 1อัน ก็ใช้ได้เกือบ 10 ท่าน ซึ่งราคาคิดต่อวัน ก็อาจจะมากไปสำหรับเราซึ่งใช้คนเดียว ไม่มีเพื่อนหาร ดังนั้น เราจึงไปศึกษาเกี่ยวกับ EGSIM ซึ่งถูกกว่า (ถ้ามีเวลาจะมารีวิวนะคะ) สำหรับเพื่อนบางคนที่อาจจะไม่ค่อยใช้อินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว ที่เกาหลีก็มีการปล่อยฟรี WIFI อยู่หลายที่ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งตัวเรานั้นก็เจอนะ แต่เชื่อมต่อไม่ได้เลย TT งงๆเหมือนกัน
07 เงิน (เกาหลี)
แลกจากเมืองไทยไปเลย โดยคำนวณค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน และอย่าลืมรวมเงินค่าช้อปปิ้งนะคะ เอาไปเหลือ ดีกว่าขาด บางท่านที่มีบัตรเครดิต หรือเดบิต ก็สามารถศึกษาดูก่อนก็ได้นะคะ เพราะร้านส่วนใหญ่ในเกาหลีก็รับรูดบัตรกัน เรทก็อาจจะสูงหน่อยค่ะ
08 จิปาถะ (เตรียมไว้ไม่เสียหาย)
- ปลั๊กพ่วง : โดยส่วนใหญ่รูเสียบปลั๊กที่พักจะน้อย สำหรับเราก็อาจจะไม่พอ ก็ขอมีตัวเสริมหน่อย ไหนจะชาร์จกล้อง ชาร์จโทรศัพท์ อย่างเรามีIpadอีก Powerbankด้วย
- ** ปลั๊กไฟแบบปลั๊กกลม มีขากลม 2 ขา (จำเป็นนะคะ แต่ที่เกาหลีก็มีขาย ทางที่ดีซื้อจากไทยกันไว้ไปเลย)
- ยา
- กล้องถ่ายรูป
- ร่ม
09 เสื้อผ้า
ส่วนนี้แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ ของแต่ละท่านเลยค่ะ แนะนำว่าเอาจากที่ไทยไปดีกว่า บางท่านอาจจะคิดไปหาซื้อที่เกาหลี ซึ่งเราคิดว่าอาจจะเสียเวลาเที่ยว และเสื้อผ้าที่เกาหลีก็ไม่ได้ถูกกว่าไทยมากนัก แต่แบบก็จะน่ารักหน่อย โดยส่วนใหญ่ที่สังเกต คนเกาหลีจะชอบใส่เสื้อผ้าโทนขาว น้ำเงิน ดำ เทา ไม่ค่อยใส่สีฉูดฉาด หรือลวดลายเยอะนัก เราว่าคนเกาหลีค่อนข้างแต่งตัวดูดีเลยค่ะ คนละสไตล์กับตัวเราเลย
ซึ่งเพื่อนๆคนไหนมาในช่วงตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วง หนาว หรือใบไม้ผลิ ก็อาจจะต้องดูสภาพอากาศกันหน่อย เราไปช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เรียกว่าร้อนจริงจัง แต่งแบบบ้านเราเลยค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
10 พาสปอร์ต + เอกสารที่เกี่ยวข้อง
เอกสารที่ต้องเตรียมพร้อม
- พาสปอร์ต
- ตั๋วเครื่องบินทั้งขาไป – ขากลับ
- ใบจองที่พัก
- บัตรนักศึกษา (บางสถานที่สามารถใช้เป็นส่วนลดได้)
- ใบรับรองการทำงาน , ใบรับรองการศึกษา (เตรียมไว้เพื่อความอุ่นใจ)
- Statement (เตรียมไว้เพื่อความอุ่นใจ)
- ** โปรแกรมการท่องเที่ยวในแต่ละวันแบบคร่าวๆ เป็นภาษาอังกฤษด้วยก็ดีนะคะ เผื่อทางตม.เกาหลีต้องการดู (เตรียมไว้เพื่อความอุ่นใจ)
การเดินทาง 6 ชม. บนเครื่องบิน ก็อาจจะไม่น่าภิรมย์นัก ของบางอย่างก็อาจจะช่วยคุณได้ เช่น
- หมอนรองคอ : เราว่ามันดีมากอะ เราเคยเดินทางไปญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการไปต่างประเทศครั้งแรก ปรากฏว่า เราไม่ได้เตรียมเครื่องนอนอะไรไปเลย อาจจะเป็นเพราะ สายการบินที่ไป เป็น Full Service เค้าก็จะมี หมอนกับผ้าห่มเล็กๆให้ แต่การนอนหมอนก็อาจจะพบปัญหาบ้าง เช่น การโยกหัวไปมา บางคนอาจแอดวานซ์ คือ ควงเป็นวงสวิง ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เมื่อคุณพก’หมอนรองคอ’ไปด้วย อิอิ ก็เลือกตามแบบที่ชอบเลย อันนี้ได้ยินเสียงเล่าลือว่า ของมูจิใช้ดี ใครอยากแนะนำยี่ห้อไหนแบบไหน ก็บอกกันมาได้นะคะ เราก็ซื้อแบบธรรมดาเป็นการ์ตูนน่ารักๆไป ซึ่งที่สนามบิน เราก็เห็นมีขายเยอะน้า และก็ดีๆทั้งนั้นด้วย ใครจะลองไปหาดูที่นั่นก็ได้นะคะ
- หูฟัง : สิ่งนี้เราเชื่อว่าเกิน 80% พกไปด้วยแน่นอน ช่วยให้คุณอยู่ในโลกส่วนตัว และหลับใหลได้ง่ายขึ้นค่ะ
- ผ้าห่ม(ผืนเล็ก) : ผ้าห่มขนาดเล็ก ที่มักพกไว้ใช้กันบนรถ ขนาดใส่กระเป๋าเป้ได้ ไม่ใหญ่มาก ไม่อย่างนั้นก็อาจจะกลายเป็นภาระเราแทนก็ได้นะคะ บางท่านอาจจะพกเป็นเสื้อกันหนาวไป แต่ก็ระวังหนาวขานะคะ สำหรับคนขี้หนาว
- ปากกา : เตรียมไว้เลย เพื่อนๆต้องได้ใช้แน่ ตอนเขียนใบตม. ก่อนหน้านี้ก็เขียนใบขาออก ตอนกลับก็จะมีใบขาเข้า เตรียมไว้ไม่เสียหายค่ะ
12 รองเท้า
การจะเที่ยวให้สนุก ความทุกข์ต้องไม่เกิด เกาหลีได้ชื่อว่าเป็นเหมือนเขาบนเกาะ การเที่ยวในแต่ละที่ หรือแค่เดินทางสถานีรถไฟไปยังที่พัก ก็อาจทำให้เหงื่อออกได้ ‘รองเท้า’เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนคู่ใจก็ว่าได้ เราใส่รองเท้าผ้าใบกีฬาไป ขนาดมียี่ห้อ ยางยังหลุดเลยทั้งสองข้าง พ่อบอกว่า ยางรองเท้าอาจจะเสื่อม เนื่องจากซื้อมานานแล้ว ไม่ค่อยได้ใช้ เราเลยได้ฤกษ์ซื้อใหม่ที่เกาหลีนี่แหละ บางคนก็อาจจะเที่ยวไม่เยอะมาก มาเกาหลีเน้นช้อปปิ้ง ก็อาจจะใส่รองเท้ารัดข้อก็ได้ ที่เกาหลีนิยมใส่รองเท้าผ้าใบมาก ลองสังเกตดูได้
13 ขาตั้งกล้อง – ไม้เซลฟี่
มาคนเดียว อยากมีรูปบ้าง เมื่อก่อนเราก็ใช้วิธีฝากคนแถวนั้นถ่าย ซึ่งเราก็รู้สึกว่า บางทีก็อาจจะไม่ถูกใจเรา จึงได้ฤกษ์มาลองใช้ขาตั้งกล้องแบบพกพา ไม่ใหญ่มาก ก็มีอุปสรรคบ้างคือ ความอาย ซึ่งก็เรียนรู้และทนเข้าไว้ คิดซะว่าไม่มีใครรู้จักเราหรอก ถ้าเราไม่ถ่าย ต้องเสียใจมากๆแน่ ที่จะไม่มีรูปคู่กับที่ตรงนั้น เท่านั้นแหละ แชะไม่หยุดเลยจ้า
14 กระเป๋าแยก (จากใบใหญ่)
ของฝาก ๆ ๆ จะใส่ไว้ตรงไหน เนื่องจากกระเป๋าที่ใส่เสื้อผ้าก็ยังคงเต็มไปด้วยเสื้อผ้า เราเลยเอากระเป๋าถือใบกลางๆอีกใบใส่กระเป๋าใบใหญ่มา พอวันก่อนกลับมาจัดกระเป๋า ก็แบ่งของมาใส่ในอีกใบที่ซ่อนไว้มา ก็ช่วยให้เราสามารถพกของฝากกลับได้มากขึ้น แต่ก็อย่าลืมเช็คน้ำหนักนะคะ ถ้าเกินขึ้นมา จะเสียเงินเพิ่มโดยไม่รู้ตัวน้า
สุดท้าย นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เรามาเขียนเกร็ดเล็กน้อย สำหรับการเตรียมตัวไปเที่ยวคนเดียว
ต้องขอโทษด้วยนะคะหากมีอะไรผิดพลาด สามารถคอมเม้นแจ้งมาได้
หรือใครมีวิธีการเตรียมของคัวเอง หรือไอเทมลับที่ช่วยให้การเที่ยวสะดวกขึ้น สนุกขึ้น ก็มาแชร์ได้เลยค่ะ
"เราเชื่อว่านอกจากสถานที่เที่ยวที่สวย และเพื่อนร่วมทางที่ดีนั้น
การวางแผนที่ดีก็มีส่วนให้ ‘ทริป’ ในวันหยุดของเรา สนุกขึ้นด้วย ขอบคุณนะคะ :)"
: แอดหมี
